พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า “อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย ” ความสงสัยไม่มีวันสิ้นไปได้…ด้วยการคิด …ด้วยทฤษฎี …ด้วยการคาดคะเน หรือ…ด้วยการถกเถียงกันหรือจะอยู่เฉย ๆ ไม่ปฏิบัติภาวนาเลยความสงสัยก็หายไปไม่ได้อีกเหมือนกัน กิเลสจะหายสิ้นไปได้ก็ด้วยการพัฒนาทางจิต ซึ่งจะเกิดได้ก็ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น การปฏิบัติทางจิตที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้นตรงกันข้ามกับหนทางของโลกอย่างสิ้นเชิง คำสั่งสอนของพระองค์มาจากพระทัยอันบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิเลสอาสวะทั้งหลาย นี่คือแนวทางของพระพุทธเจ้า และสาวกของพระองค์ เมื่อเราปฏิบัติธรรมเราต้องทำใจของเราให้เป็นธรรม
ไม่ใช่เอาธรรมะ มาตามใจเรา ถ้าปฏิบัติอย่างนี้ทุกข์ก็จะเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครสักคนหรอกที่จะพ้นทุกข์ไปได้ พอเริ่มปฏิบัติทุกข์ก็อยู่ตรงนั้นแล้ว
หน้าที่ของผู้ปฏิบัติจะต้องมี สติ สำรวม และสันโดษ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราหยุด คือเลิกนิสัยความเคยชินที่เคยทำมาแต่เก่าก่อน
ทำไมถึงต้องทำอย่างนี้ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ไม่ฝึกฝนอบรมใจตนเองแล้วมันก็จะคึกคะนอง วุ่นวายไปตามธรรมชาติของมัน
.
.
หลวงพ่อชา สุภัทโท