ศูนย์พลาญข่อย หรือ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนพลาญข่อย ตั้งอยู่ที่ บ้านแหลมทอง เลขที่ 77 หมู่ 2 ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี 34350
สร้างขึ้นโดยพ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย และ ชาวบ้าน พร้อมญาติธรรมทั้งหลาย
เนื่องจากท่านพ่อครูบัญชา ได้ละทิ้งความมีและความเป็นที่อยู่บนกองทุกข์ในขณะที่อาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แม้ท่านจะมีเงินมากมาย
มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านไม่เคยเป็นอิสระทางใจเลย แต่ละวันชีวิตมีแต่การแข่งขัน กังวนกับธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
มีความคิดว่า“ชีวิตที่มั่นคง ต้องมีความเจริญเติบโตทางวัตถุเป็นเป้าหมาย เพราะเชื่อว่านั่นคือ หนทางเดียวที่จะมุ่งสู่ความมั่นคงของชีวิต”
ซึ่งเป็นความเชื่อ ณ เวลานั้น ต่อมาท่านได้ปฏิบัติธรรมจึงได้ค้นพบสัจธรรม ความเป็นจริงตามธรรมชาติ ที่ว่า
“จนแปลว่าไม่มี ไม่ได้แปลว่าทุกข์
รวยแปลว่า มีเยอะ ไม่ได้แปลว่าสุข
สำเร็จแปลว่าเสร็จแล้ว”
เมื่อท่านได้ค้นพบกับความหมายของคำว่า “สำเร็จ” พ่อครูจึงตัดสินใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอน
กลับมาทดแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดที่ จังหวัดอุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2533
“ความเจริญเติบโตมั่นคงนั้น
ไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่มีวันเสร็จ
เจริญ คือ มีมากขึ้น เติบโต คือ ยิ่งใหญ่ขึ้น
ไม่ได้แปลว่ามั่นคง
ความสำเร็จ ซึ่งหมายถึง
ไม่มีปัญหาอะไรจะต้องแก้ไขอีกแล้ว
หรือหยุดแล้ว จะเกิดขึ้นได้อย่างไรในโลกยุคเสรี ”
หลังจากที่กลับมา พ่อครูได้อุทิศตนให้พุทธศาสนาอย่างเต็มตัว ให้สมกับที่ได้เกิดมาอยู่ใต้พระบารมีของพระพุทธเจ้า
เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าและนำสัจธรรม ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตนเองมาถ่ายทอดให้ญาติธรรม
โดยสอนวิปัสสนา ที่ใช้หลักการนำอายตนะมาเป็นฐานที่ตั้งแห่งการเจริญสติ ที่เรียกว่า “อายตนะวิปัสสนากัมมัฏฐาน”
เมื่อพ่อครูได้มาใช้ชีวิตที่บ้านแหลมทอง ทำให้ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีแต่ปัญหาสังคม เนื่องจากสังคมในยุคปัจจุบัน
เป็นสังคมแบบทุนนิยม พ่อแม่ต้องไปทำงานในเมืองหลวง เพื่อหาเงินทองมาจุนเจือครอบครัว ทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
ครอบครัวแตกแยก เด็กขาดความอบอุ่น คนแก่เลี้ยงหลานที่บ้าน ชาวบ้านถูกชักชวนให้ไปทำงานเพราะเห็นว่าเงินดี
แต่สุดท้ายกลับโดนหลอกให้ไปขายแรงงาน ปัญหาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะชาวบ้านขาดการศึกษา ถูกคนที่บอกว่าเป็นนายทุน
เอารัดเอาเปรียบ และโดนสังคมที่ถูกหล่อหลอมมาว่าต้องมีเงิน มีทอง มีบ้าน มีรถ ชาวบ้านจึงต้องขวนขวายเพื่อให้ตนมีเหมือนคนอื่นๆ
ดังนี้ พ่อครูบัญชาได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงต้องการที่จะส่งเสริมการศึกษา ควบคู่กับการพัฒนาด้านจิตใจเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนและชุมชน
เน้นการอยู่ร่วมกันและการดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ทำการเกษตรปลอดสารพิษในนามไร่แหลมทอง
ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร
จากการทำไร่นาสวนผสมที่ปลอดสารเคมี กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชนในหมู่บ้าน
ท่านได้ให้คำแนะนำทั้งวิธีการผลิตและการดำรงชีวิต โดยยึดหลักว่า