กรรมไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ กรรมคือการกระทำ เราทำอย่างไรเราก็เป็นอย่างนั้น เราแบกเราก็หนัก เราวางเราก็เบา มันเป็นอะไรตรงไปตรงมา
เราหลับตา โอกาสเห็นความจริงมี แต่ถ้าเราลืมตามีแต่เห็นสิ่งปรุงแต่งเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเราไม่มีปัญญา เราไม่สามารถเห็นความจริงได้ ทุกอย่างเป็นมายาภาพหมด
คำว่าสำรวมระวัง สำรวมระวังตามสัญชาตญาณตามธรรมชาติเรา ไม่มีการกระทำเลย การจ้องระวัง ถ้าไม่สำรวมระวัง เราจะเผลอ เพราะกิเลสมันไม่ชอบให้เรานั่งอยู่เฉยๆอยู่แล้ว มีอะไรเกิดขึ้น มันจะดึงให้เราไปคิดวิเคราะห์ ทำไม ทำไม ทำไม พอคิด เราหลุดแล้ว เราเผลอไปสร้างมโนกรรมมีการกระทำเกิดขึ้นแล้ว แต่เผลอ ได้สติคืนมาก็ดึงกลับมาเหมือนเก่า อันนั้นถือว่าเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปคิดเพิ่มอีก เราไม่น่าเผลอเลย เมื่อสักครู่เผลอ 1 แล้ว พอคิด เราไม่น่าเผลอเลย อันนี้เผลอที่ 2 เผลอคิดอีกแล้ว นี่คือกิเลส แค่นั่งเฉยๆ เราจะเห็นกิเลสเราชัด ถ้าไม่รู้เฉยๆ แต่เผลอไปรู้สึก รู้สึกนี่ดึงเข้ามาแล้ว ดึงเข้ามารู้สึกแล้ว เวทนาเกิดขึ้นทันที มันบันทึกสัญญาใหม่แล้วว่า เรารู้สึก “ดี” หรือ “ไม่ดี”
.. “รู้” เฉยๆ ไม่ต้อง “สึก”
พอเห็นความคิดตัวเอง พอเผลอ เบื่อความคิด อ้าว โดนตีหัวอีกแล้ว รู้สึกเบื่ออีกแล้ว เค้าเอาทุกช่องนะ หน้าที่เรามีอย่างเดียว อยู่ในท่านอน ท่านอนเฉยๆ ไม่ได้ท่านอนหลับ ถ้านอนไปด้วยหลับไปด้วย อันนี้ไม่ใช่เฉยแล้ว อันนี้เราคอรัปชั่นหน้าที่เราแล้ว ถ้าเวลานอนเราก็นอน ถ้าเวลากินเราก็กิน แต่ถ้าไม่ใช่เวลานอนเรานอน ไม่ใช่ธรรมะนะ ไม่ใช่หน้าที่ มันเป็นกิเลส ไม่ใช่เวลากิน เราไปกิน เพราะมันอร่อย อันนี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ อันนี้ก็เป็นกิเลสเพิ่มอาหารให้กิเลส
พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย