ตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติสมาธิหมุนมาก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว ข้าพเจ้าได้พบกับความมหัศจรรย์ของการปฏิบัติธรรมในแนวทางนี้อยู่หลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดกับตัวของข้าพเจ้าเองหรือกับครอบครัวของข้าพเจ้า ในส่วนตัวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ค้นพบกับคำตอบ
ของชีวิตที่ข้าพเจ้าได้สงสัยมาโดยตลอดว่า “คนเราเกิดมาทำไม แค่เกิดมาเพื่อเรียน กิน ทำงาน เที่ยวบ้างบางคราวเท่านั้นเองหรือ
ทำไมชีวิตมันช่างน่าเบื่อ วนเวียนอยู่แต่กับกิจวัตรเดิมอยู่ทุกวัน” แต่เมื่อได้มาปฏิบัติธรรมแนวนี้ทำให้ผมได้เข้าใจ (เข้าจิต)
ว่าคนเราเกิดมาก็เพื่อสะสมบุญบารมี ได้ใช้กรรมที่เราได้ก่อไว้ เพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารและ มุ่งไปสู่พระนิพพาน ซึ่งไม่ใช่เรื่อง
ที่ไกลเกินกว่าที่ทุกคนจะก้าวไปถึง ซึ่งการปฏิบัติสมาธิหมุน สามารถทำให้เรามุ่งไปสู่จุดนั้นได้โดยแน่แท้ และเร็วยิ่งกว่าแนวปฏิบัติอื่นใด
ในขณะที่นั่งสมาธิข้าพเจ้าได้สัมผัสกับวิบากกรรมต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้กระทำทั้งในชาตินี้ และอดีตชาติมันช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน
ซึ่งเราก็ต้องเหวี่ยงสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป
ก่อนมาปฏิบัติแนวนี้ ข้าพเจ้าเคยเป็นโรคหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็เป็นโรคของกรรมนั้นเอง ข้าพเจ้าได้รับการรักษามานานก็ไม่หาย
แต่เมื่อมาปฏิบัติข้าพเจ้าสามารถ เอาชนะกับความทุกข์ทรมานจากโรคนี้ โดยยอมชดใช้กรรมต่าง ๆ ในสมาธิ แล้วเหวี่ยงเอาทุกสิ่งทิ้งไป
จนข้าพเจ้าสามารถหลุดพ้นออกจากโรคดังกล่าวได้ นี่แหละคือ ความมหัศจรรย์ที่ข้าพเจ้าได้รับ ในส่วนของครอบครัวของข้าพเจ้า
ทำให้ครอบครัวเป็นครอบครัวยิ่งขึ้น ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ น้อง ๆ และข้าพเจ้าต่างเข้าใจกับการปฏิบัติแนวทางนี้ สามารถคุยแลกเปลี่ยน
ในทุก ๆ เรื่อง โดยมีคุณพ่อเป็นศูนย์กลาง ทำให้เราต่างเข้าใจกันง่ายและใจเย็นต่อกัน สุดท้ายนี้สิ่งที่ประเสริฐที่สุดก็คือการ
ได้พบกับพ่อครูอาจารย์บัญชา ซึ่งเป็นผู้ชี้แนะแนวทางให้แก่ข้าพเจ้า
คุณปราชญ์ ปิติกุลตัง