080-5519598 (คุณแก้ว) plarnkhoi@hotmail.com
Select Page

ประสบการณ์นายแพทย์สายัณห์  เรืองกิตติคุณ ได้แบ่งปันจากการมาปฏิบัติในครั้งแรก 13 พฤษภาคม 2557

Individual design program เป็นเหมือน program ที่ถูกออกแบบมาให้กับผมโดยเฉพาะเจาะจง สอดคล้องกับจริตมากที่สุด เหมือนการตัดเสื้อที่ตัดมาให้เราโดยเฉพาะ

ไม่เหมือนกับระบบโรงงานอุตสาหกรรมธรรมมะ  ที่เป็นระบบสายพานการผลิต ผู้ปฏิบัติธรรม เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกprogram เหมือนกันทั้งหมด โดยไม่ดูต้นทุนเดิม หรือ จริตแต่ละคน   ทำให้ครั้งนี้ เป็นครั้งแรก ที่มีประสบการณ์ตรงกับตัวเอง

…..ในเรื่องของ “จิตในจิต” ซึ่งที่ผ่านมารู้จักแค่สมาธิและสติ

  • 60 นาทีในการสนทนาธรรมกับพ่อครูบัญชา จะเป็น 1 ชั่วโมงที่เปลี่ยนชีวิตของ

“หมอสายัณห์” ไปชั่วชีวิต เป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจในแก่นแท้ ของ

พุทธศาสนา ที่เกิดจากภาษาทีง่ายๆของพ่อครู เกิดจากประสบการณ์ตรง

ของ การปฏิบัติ ต้องกราบขอบพระคุณพ่อครูที่เหมือนให้

“กำเนิดชีวิตใหม่ทางธรรม”

  • ความเมตตาที่พ่อครู มีให้กับลูกศิษย์ ช่างเกินกว่าที่จะบรรยายเป็นภาษเขียน แต่มันจะเป็นแรงบันดาลใจ…ให้ผมได้ยืดเป็นแบบอย่างในการทำความดี ในการให้ในการช่วยเหลือผู้อื่นต่อๆไป
  • นิพพาน คือนิยามของการดับทุกข์ ที่มีเฉพาะพระอรหันต์ และเป็นแค่..เรื่องเล่าที่มีอยู่ในอดีต ที่ตายแล้วจากปัจจุบัน  แต่เมื่อพบพ่อครูบัญชา  ความหมายของนิพพานและความเป็นไปได้ในการเข้าถึง…..ไม่ใช่เรื่อง..เพ้อเจ้อ..อีกต่อไป

ผมฝึกปฏิบัติธรรมมาพอสมควร แต่ไปติดอยู่แค่ สติ และ สมาธิ และก็ยังคงทำผิดศีลอยู่หลายข้อ  แต่หลังจากกลับไป ผมตั้งใจจะออกจากป่า ด้วย….. มรรค8 ให้ได้…..

ความเมตตา สายตาที่จริงใจ ที่พ่อครูมองผม ทำให้ผมสัมผัสได้ และตั้งใจจะเป็นผู้หลุดพ้น ตามแนวทางที่พ่อครูสอน ขอบคุณทุกๆ อย่างที่ พ่อครูมอบให้ครับ

 

เรื่องเสียงเรียกร้องจากกล้ามเนื้อ

จากประสบการณ์ฝึกปฏิบัติธรรมที่ศูนย์พลาญข่อย จ.อุบลกับพ่อครูบัญชา มีสิ่งที่อยากจะเล่าและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในบางอย่าง ที่ไม่เคยประสพมาก่อน

ผมเป็นหมอแผนปัจจุบัน ที่เป็นผู้อำนวยการณ์โรงพยาบาล แต่ผ่านการผ่าตัดกระดูกคอเคลื่อนมาแล้ว2ครั้ง ในช่วงเวลาห่างกันเพียงแค่ปีเดียว  แต่กระนั้นอาการรู้สึกว่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาไปทั้งตัวแขนขาซ้ายเป็นมากกว่าด้านขวา ก็ยังไม่หายเสียที หมอชื่อดัง ทั้ง รพ.รัฐและเอกชนต่างๆยืนยันด้วยการตรวจด้วยเครื่องมือสุดทันสมัย ก็ไม่สามารถอธิบายอาการได้ จนหลังๆ พาลจะไม่รับรักษาเสียแล้ว

ลองเปลี่ยนมาหลายวิธี ทั้งสมุนไพร หมอจีน หมอดู และอีกสารพัดวิธีก็ไม่หาย

จนคิดว่าจะเจอทางตันเสียแล้ว  วันหนึ่งเพื่อนก็ชวนมาสมาธิเหวี่ยงดู ก็มาแบบไปงั้นแหละ

เพราะไม่รู้จะไปไหนแล้ว ก็เลยลองมาดู และก็ไม่ได้ศึกษามาก่อนด้วยว่ามันคืออะไร

ประมาณว่าไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน

ความแปลกมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นหลังทดลองไป 7 วัน จนเมื่อกลับไปทำงานจึงได้จัดให้พยาบาลที่โรงพยาบาลมาฝึกปฏิบัติจำนวน 10 คน ที่ศูนย์โค้วยูฮะ  ที่เป็นสาขาของศูนย์พลาญข่อยที่อยู่ใกล้ๆ อสมท.ในกรุงเทพ   เพราะว่าอาการที่เคยเป็นไม่ว่าจะเป็นการที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชา  ปวดตามตัวจนไม่กล้าวิ่งหรือกระโดดเพราะกลัวกระแทกที่คออีก

เดี๋ยวจะได้ผ่าตัดเป็นรอบที่ 3 อาการต่างๆมันดีขึ้น แข็งแรงขึ้นจนกลับไปเตะฟุตบอลเบาๆกับลูกๆที่บ้านได้ หลังจากที่ไม่เคยสัมผัสลูกฟุตบอลมา 5 ปีเต็มๆหลังผ่าตัดคอ และยังมีของแถมด้วยการที่รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ประมาณว่าปล่อยมุขในที่ประชุมจนทำให้ลูกน้องหัวเราะท้องแข็งไปเลย ยิ้มง่ายขึ้น และยังนอนหลับดีและหลับยาวยันสว่างจากที่หลับๆตื่นๆมานาน

>>>>> แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสียงเรียกร้อง…..จากกล้ามเนื้อ และการปฏิบัติธรรม <<<<<

***ต้องตอบว่ามันสัมพันธ์และเกี่ยวกันโดยตรง*** เพราะ…แนวของพ่อครูบัญชานั้นใช้เสียงเพลงเป็นตัวนำ ตามด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่วนจะเคลื่อนไหวอย่างไรนั้นอันนี้เป็นจุดสำคัญ   อย่างที่เราทราบๆว่าเราเคลื่อนไหวร่างกายได้จากการที่…เราสั่งกล้ามเนื้อเรา เมื่อเราจะไปก้าวไปซ้ายก็สั่งให้ยกขาซ้าย แต่การปฏิบัติแนวพ่อครูบัญชานั้น กับตาลปัตรกันเลยเพราะเมื่อเราได้ยินเสียงเพลงที่หูและมารับรู้ที่ใจแล้ว กล้ามเนื้อเราจะเรียกร้องที่จะเคลื่อนไหวตามที่มันอยากจะเคลื่อน ไม่ใช่เราสั่งให้กล้ามเนื้อเรา ก็คือจิต จิตเราจะบอกกล้ามเนื้ออีกทีว่ากล้ามเนื้อมัดไหนที่อยากจะเคลื่อนไหว เราเพียงแค่เคลื่อนไหวร่างงกายเพื่อส่งเสริมการทำงานของจิตเท่านั้น แต่เรื่องง่ายๆกลับไม่ง่าย  เรื่องง่ายกลับยาก เมื่อเราฟังเพลง แล้วเราเกิดไปสั่งกล้ามเนื้อของเราตามที่เราเคยชิน เช่น บางครั้งหมุนแขนซ้ายจนเมื่อย

เราก็คิดว่า “จะหมุนอะไรนักหนาชักเมื่อยแล้วนะ”  อยากหมุนขวาบ้าง  ก็เลยไปละเลยเสียงเรียกร้องจากกล้ามเนื้อที่ยังคงต้องการหมุนแขนซ้ายอยู่  แล้วก็ได้เรื่อง เมื่อมันไม่ยอมหมุนขวาให้ หรือถ้าเราฝืนจริงก็พอได้ แต่การเคลื่อนไหวจะไม่เป็นธรรมชาติ ทำนองไปไม่เป็น และกล้ามเนื้อ ปวดตึงมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อปฏิบัติสักพักก็ได้ข้อสรุปว่า เสียงเรียงร้อง……….จากกล้ามเนื้อ นั้น เกิดจากความต้องการของจิตอีกที เราเพียงแค่เคลื่อนไหวร่างกายตามความต้องการของจิตที่สื่อสารความต้องการผ่านกล้ามเนื้อมาเป็นการเคลื่อนไหวเป็นท่าทางต่างๆนั้นเอง

โดยระหว่างการฝึกปฏิบัติไม่ต้องสงสัยไม่ต้องตั้งคำถาม (ค่อยมาถามหาเหตุผลหลังปฏิบัติ)

ไม่ฝืนไม่สั่งการ มันจะเกิดการเต้นหรือการเคลื่อนไหวที่ดูแปลกๆจากทั่วไป แต่มันสะท้อนความต้องการจากภายในของร่างกายและจิต เป็นการรักษาหรือเยียวยาในลักษณะจิตภายในบำบัดร่างกายตนเอง ( self healing )

จากประสบการณ์ฝึกปฏิบัติที่ ศูนย์พลาญข่อย จ.อุบล ขอกราบขอบพระคุณ พ่อครูบัญชา ตั้งวงศ์ไชย ที่ให้แสงสว่างในชีวิต

นายแพทย์สายันห์ เรืองกิตติกุล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลองครักษ์ จ. นครนายก